ประวัติสนามซานดิเอโก้ เบอร์นาบิว

    ประวัติสนามซานดิเอโก้ เบอร์นาบิว เชื่อว่าทุก ๆ คนในที่นี้ก็คงเห็นด้วยกับเราว่า สนามฟุตบอลซานติเอโก้ เบอร์นาบิว หรือว่า สนามเหย้าของสโฒสรฟุตบอล เรอัล มาดริด แห่งประเทศสเปน เป็นสถานที่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่า ประวัติศาสตร์ของฟุตบอล ได้ผ่านอะไรมาบ้างแล้ว สำหรับเนื้อหาในวันนี้ของเราทางเราจะขอนำเสนอเกี่ยวกับประวัติซานติอาโก เบร์นาเบว เราจะบอกคุณถึงรายละเอียดทั้งหมดของสนามกีฬาที่น่าทึ่งแห่งนี้ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยและเหตุการณ์ต่างๆ ที่ทำให้ที่นี่กลายเป็นไอคอนของฟุตบอลในโลก

จุดเริ่มต้นของ ประวัติสนามซานดิเอโก้ เบอร์นาบิว

     Santiago Bernabéu สนามเหย้าอย่างเป็นทางการของ สโมสรฟุตบอลเรอัล มาดริด  ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดใน ประวัติศาสตร์ฟุตบอล เราทุกคนรู้ว่า ซานดิเอโก้ เบอร์นาบิว เป็นหนึ่งในสนามกีฬาที่มีส่วนเริ่มกับเหตุุต่างๆมากมายของโลกฟุตบอล โดยสนามแห่งนี้ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2490 ภายใต้ชื่อ Nuevo Chamartín และต่อมาได้เปลี่ยนเป็นชื่อปัจจุบันคือ ซานดิเอโก้ เบอร์นาบิว  เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2498 เพื่อเป็นเกียรติแก่ ประธานสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด

     ตลอดประวัติศาสตร์อันน่าอัศจรรย์ ซานดิเอโก้ เบอร์นาบิว ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างมากมาย ในช่วงแรกสนามแห่งนี้มีความจุสำหรับผู้ชม 75,145 ที่นั่งซึ่งในตอนนั้นมีเก้าอี้เพียง 27,645 ที่นั่งเท่านั้น มันคงค่อนข้างอึดอัดที่จะดูเกมการแข่งขันกีฬา หลังจากนั้น ซานดิเอโก้ เบอร์นาบิว  ได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งแรก โดยเพิ่มความจุเป็น 125,000 คน และกลายเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดใน การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป ที่ได้สร้างขึ้นใหม่ สนามนี้เคยจัดการแข่งขัน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศมาแล้ว 4 ครั้งนับตั้งแต่การก่อตั้ง

การเดินทางของซานดิเอโก้ เบอร์นาบิวในช่วงยุคต่างๆ

     โดยในช่วงปีแรกๆ ซานติอาโก เบร์นาเบว สามารถจัดการแข่งขันได้เฉพาะช่วงกลางวันเท่านั้น เนื่องจากไม่มีโครงสร้างสำหรับรองรับการติดตั้งอุปกรณ์ให้แสงสว่างในช่วง 10 ปีแรกนับตั้งแต่เปิดตัว จนกระทั้งในเดือนพฤษภาคมปี 1957 แสงไฟของซานติอาโก เบร์นาเบว ก็ได้รับการเปิดออกมาสำหรับเกมตอนกลางคืนครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสนามกีฬา เป็นเกมระหว่าง เรอัล มาดริด และสปอร์ตเรซิเฟ่ของบราซิล ผลคือเรอัลมาดริดเอาชนะสปอร์ตเรซิเฟ่ สนามแห่งนี้ยังถูกใช้จัดการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปรอบสุดท้ายในปี 1964 ระหว่าง สเปน และ สหภาพโซเวียต สเปนชนะ 2-1 และได้รับการประกาศให้เป็นแชมป์ยุโรปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ การเอาชนะสหภาพโซเวียตครั้งรี้ก็เหมือนกับการเอาชนะสงครามเย็นไปในตัวด้วย

     ต่อมา ในปี 1982 ซานติอาโก เบร์นาเบว มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอีกหลายครั้ง เนื่องจากกำลังจะจัดการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 4 นัด ด้วยเหตุนี้จึงมีการติดตั้งหลังคาบางส่วนเพื่อให้ครอบคลุมที่นั่งให้ได้มากที่สุดและเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ความจุของซานติอาโก เบร์นาเบว จึงลดลงเหลือ 98,000 คนเพื่อให้รองรับกับหลังคาและระบบไฟส่องสว่างก็ได้รับการปรับปรุงด้วยในส่วนหน้าอาคารยังได้รับการปรับปรุงใหม่ทำพื้นที่สำหรับสื่อมวลชน ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ทางเข้า และพื้นที่ติดกันได้รับการปรับโครงสร้างใหม่ เข้าสู่ช่วงทศวรรษที่ 90 สนามกีฬา มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุด ยูฟ่า สร้างข้อบังคับให้ทุกพื้นที่ที่จัดการเฉลิมฉลองการแข่งขันฟุตบอลต้องจัดที่นั่งให้พร้อมสำหรับจำนวนผู้ชม ซึ่งทำให้ เรอัล มาดริด ต้องขยายสนามกีฬาเพื่อชดเชยการสูญเสียพื้นที่และความจุที่ลดลงโดยรวมที่นั่งในอัฒจรรย์ทั้งหมด เพิ่ม ความจุรวมของสนาม 20,000 ที่นั่ง จุผู้ชมได้ 106,000 คน ถือได้ว่า สนามฟุตบอล แห่งนี้มีความยิ่งใหญ่ยาวนานเป็นระยะเวลามากกว่า 30 ปีเข้าไปแล้ว

วิธีเดินทางไปสนามซานดิเอโก้ เบอร์นาบิว

     เป็นที่ทราบกันดีว่าผู้มาเยือนมาดริดต้องแวะที่ซานติอาโกเบร์นาเบว อาจเป็นเพราะเขาเป็นแฟนของสโมสร เรอัล มาดริด คนรักฟุตบอล หรือเพียงแค่นักเดินทางที่อยากรู้อยากเห็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงเช่นนี้ โชคดีที่เมืองมาดริดมี ระบบขนส่งสาธารณะ ที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมเป็นครั้งแรก วิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางไปยังเบร์นาเบวคือรถไฟใต้ดินมาดริดโดยที่อยู่ของ ซานดิเอโก้ เบอร์นาบิว คือ Av. De Concha Espina, 1, 28036 มาดริด หากต้องการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน คุณต้องขึ้นสาย 10 ไปยังสถานี Santiago Bernabéu เมื่อออกจากสถานีคุณจะสนามบอล

ทัวร์สนามกีฬาซานดิเอโก้ เบอร์นาบิว

     โดยทาง สโมสรฟุตบอล เรอัลมาดริด ได้ทำการเปิดทัวร์สนามกีฬาด้วยตนเอง โดยระหว่างนั้นคุณจะได้เดินตามเส้นทางผ่าน สนามกีฬา เส้นทางนี้รวมถึง ห้องประธานาธิบดี, ห้องแถลงข่าว, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, อุโมงค์ของผู้เล่นและห้องถ้วยรางวัล และสิ้นสุดที่ ร้านค้าของสโมสร ทางสนามเปิดให้บริการในวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 10.00 – 19.00 น. และวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.30 – 06.30 น. ในวันแข่งขัน ทัวร์จะเปิดจนถึง 5 ชั่วโมงก่อนเวลาเริ่มการแข่งขัน (แต่จำกัดการเข้าถึง) ไม่จำเป็นต้องจอง แม้ว่าจะสามารถจองทัวร์ออนไลน์ได้ ค่าเข้าชม €25.00 พร้อมตัวเลือกพรีเมียมเพิ่มเติม

สนามฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่: แนะนำสนามบอล
 
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : สนามกีฬาเวมบลีย์

#สนามฟุตบอล #สนามเรอัลมาดริด #สนามแข่งชุดขาว #สนามซานติอาโก้ #สนามเบอร์นาบิว