TOP 10 สนามฟุตบอลสวย ที่สุดในโลก

TOP 10 สนามฟุตบอลสวย ที่สุดในโลก

อันดับที่ 10 : สนามกีฬาโอลิมปิก (Olympic Stadium) อังกฤษ

     สนามกีฬาโอลิมปิกเป็นสนามกีฬาที่มีรูปทรงคล้ายกับเต่าทะเล มีหลังคาโค้งขนาดใหญ่ หลังคาแห่งนี้สามารถเปิดปิดได้เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องถึงสนามได้ สนามแห่งนี้มีอัฒจันทร์ทั้งหมด 60,000 ที่นั่ง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ โดยสามารถขยายความจุได้ถึง 80,000 ที่นั่งสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก

สนามกีฬาโอลิมปิก-(Olympic-Stadium)-อังกฤษ

     หลังจบการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก สนามกีฬาโอลิมปิกได้ถูกปรับปรุงให้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอล เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมฟุตบอลระดับพรีเมียร์ ลีกของอังกฤษ สนามแห่งนี้ถูกเปิดใช้ครั้งแรกโดย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2016 ในการแข่งขันนัดเปิดฤดูกาล 2016–17 กับสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี

อันดับที่ 9 : สนามอัลลิอานซ์ อารีนา (Allianz Arena) เยอรมนี

     สนามกีฬาอัลลิอานซ์ อารีนา (Allianz Arena) เป็นสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในเขตฟริงก์ เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี สนามแห่งนี้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอล บาเยิร์น มิวนิก และทีมชาติเยอรมนี สนามกีฬาอัลลิอานซ์ อารีนาเป็นสนามกีฬาที่โดดเด่นด้วยหลังคาแบบพองลมที่สามารถเปลี่ยนสีได้ หลังคาแห่งนี้สามารถเปลี่ยนสีได้ 3 สี ได้แก่ สีแดง น้ำเงิน และขาว โดยสีที่แสดงจะขึ้นอยู่กับทีมเจ้าบ้านที่กำลังแข่งขัน ตัวอย่างเช่น หากบาเยิร์น มิวนิกเป็นเจ้าบ้าน หลังคาก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง หากทีมชาติเยอรมนีเป็นเจ้าบ้าน หลังคาก็จะเปลี่ยนเป็นน้ำเงิน

     สนามกีฬาอัลลิอานซ์ อารีนาเคยใช้เป็นสนามแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 สนามแห่งนี้ยังเคยใช้เป็นสนามแข่งขันรายการอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ 2012 และ 2013

     สนามกีฬาอัลลิอานซ์ อารีนาเป็นสนามกีฬาที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองมิวนิกและประเทศเยอรมนี สนามแห่งนี้เป็นสถานที่ที่แฟนบอลฟุตบอลจากทั่วโลกต่างมาเยือนเพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลและสัมผัสกับบรรยากาศอันน่าประทับใจ

อันดับที่ 8 : สนามกีฬาเอติฮัด (Etihad Stadium) อังกฤษ

      สนามกีฬาเอติฮัด (Etihad Stadium) เป็นสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในเขตเมโทรโพลิแทน เขตเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ สนามแห่งนี้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี สนามกีฬาแห่งนี้เปิดใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2546

     สนามกีฬาเอติฮัดเป็นสนามฟุตบอลที่มีรูปทรงกลม มีหลังคาโค้งขนาดใหญ่ สนามแห่งนี้มีอัฒจันทร์ทั้งหมด 55,017 ที่นั่ง ซึ่งสามารถขยายความจุได้ถึง 60,500 ที่นั่งสำหรับการแข่งขันฟุตบอลระหว่างประเทศ สนามแห่งนี้มีระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพและระบบไฟส่องสว่างที่ทันสมัย

สนามกีฬาเอติฮัด-(Etihad-Stadium)-อังกฤษ

     สนามกีฬาเอติฮัดเป็นสนามกีฬาที่ทันสมัยและครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย รวมถึงร้านอาหาร ร้านค้า และพิพิธภัณฑ์สโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สนามกีฬาเอติฮัดเป็นสนามกีฬาที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองแมนเชสเตอร์และประเทศอังกฤษ สนามแห่งนี้เป็นสถานที่ที่แฟนบอลฟุตบอลจากทั่วโลกต่างมาเยือนเพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลและสัมผัสกับบรรยากาศอันน่าประทับใจ

อันดับที่ 7 : สนามกีฬาแอนฟิลด์ (Anfield Stadium) อังกฤษ

     สนามกีฬาแอนฟิลด์ (Anfield Stadium) เป็นสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในเขตแอนฟิลด์ เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ สนามแห่งนี้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล สนามกีฬาแอนฟิลด์เปิดใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2427   สนามกีฬาแอนฟิลด์เป็นสนามฟุตบอลที่มีอัฒจันทร์สองชั้น สนามแห่งนี้มีอัฒจันทร์ทั้งหมด 53,394 ที่นั่ง โดยอัฒจันทร์หลักมีชื่อว่า “The Kop” ซึ่งเป็นอัฒจันทร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก สนามกีฬาแอนฟิลด์มีระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพและระบบไฟส่องสว่างที่ทันสมัย

สนามกีฬาแอนฟิลด์-(Anfield-Stadium)-อังกฤษ

     สนามกีฬาแอนฟิลด์เป็นสนามกีฬาที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองลิเวอร์พูลและประเทศอังกฤษ สนามแห่งนี้เป็นสถานที่ที่แฟนบอลฟุตบอลจากทั่วโลกต่างมาเยือนเพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลและสัมผัสกับบรรยากาศอันน่าประทับใจ สนามกีฬาแอนฟิลด์เป็นสนามฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกที่ยังเปิดให้บริการอยู่ สนามแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ สนามแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลิเวอร์พูลและสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล

อันดับที่ 6 : สนามกีฬาซานซิโร (San Siro) อิตาลี

     สนามซานซิโร (San Siro) เป็นสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในเขตซานซิโร เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี สนามแห่งนี้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลอินเตอร์ มิลาน และสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน สนามกีฬาซานซิโรเปิดใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2469 สนามกีฬาซานซิโรเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลีและยุโรปตะวันตก สนามแห่งนี้มีอัฒจันทร์ทั้งหมด 75,923 ที่นั่ง สนามกีฬาซานซิโรมีระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพและระบบไฟส่องสว่างที่ทันสมัย

     สนามกีฬาซานซิโรเคยใช้เป็นสนามแข่งขันฟุตบอลโลก 1934, 1990 และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1980 สนามแห่งนี้ยังเคยใช้เป็นสนามแข่งขันรายการอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ 1965, 1970, 2001 และ 2016

     สนามกีฬาซานซิโรเป็นสนามกีฬาที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองมิลานและประเทศอิตาลี สนามแห่งนี้เป็นสถานที่ที่แฟนบอลฟุตบอลจากทั่วโลกต่างมาเยือนเพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลและสัมผัสกับบรรยากาศอันน่าประทับใจ

อันดับที่ 5 : สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ( Old Trafford Stadium )

     สนามโอล์ดแทรฟฟอร์ด (Old Trafford Stadium) เป็นสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในเขตโอลด์แทรฟฟอร์ด เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ สนามแห่งนี้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สนามกีฬาโอลด์แทรฟฟอร์ดเปิดใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2453

     สนามกีฬาโอลด์แทรฟฟอร์ดเป็นสนามฟุตบอลที่มีอัฒจันทร์สามชั้น สนามแห่งนี้มีอัฒจันทร์ทั้งหมด 74,140 ที่นั่ง โดยอัฒจันทร์หลักมีชื่อว่า “สเตเดียม ฟอร์ ยู” (The Stadium for You) สนามกีฬาโอลด์แทรฟฟอร์ดมีระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพและระบบไฟส่องสว่างที่ทันสมัย

สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด-(-Old-Trafford-Stadium-)

     สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด เป็นสนามกีฬาที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองแมนเชสเตอร์และประเทศอังกฤษ สนามแห่งนี้เป็นสถานที่ที่แฟนบอลฟุตบอลจากทั่วโลกต่างมาเยือนเพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลและสัมผัสกับบรรยากาศอันน่าประทับใจ สนามกีฬาโอลด์แทรฟฟอร์ดเป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สนามแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองแมนเชสเตอร์และสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อันดับที่ 4 : สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว (Santiago Bernabéu Stadium)

     สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว (Santiago Bernabéu Stadium) เป็นสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในเขตชามาริน เมืองมาดริด ประเทศสเปน สนามแห่งนี้เป็นสนามเหย้าของสโมสรเรอัล มาดริด สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบวเปิดใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2490 สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบวเป็นสนามฟุตบอลที่มีอัฒจันทร์สี่ชั้น สนามแห่งนี้มีอัฒจันทร์ทั้งหมด 81,044 ที่นั่ง สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบวมีระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพและระบบไฟส่องสว่างที่ทันสมัย

สนามกีฬาซานเตียโก-เบร์นาเบว-(Santiago-Bernabéu-Stadium)

     สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบวได้รับการขนานนามว่า “เบร์นาเบว” (Bernabéu) หรือ “บ้านของเรอัลมาดริด” (The Home of Real Madrid) สนามแห่งนี้เป็นสนามฟุตบอลที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวที่น่าสนใจ สนามแห่งนี้เป็นสถานที่ที่นักฟุตบอลชั้นนำของโลกมากมายได้ลงเล่นและสร้างผลงานที่น่าจดจำ

     ในปี พ.ศ. 2566 สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบวได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยเพิ่มอัฒจันทร์ชั้นที่ห้าเพิ่มที่นั่งเป็น 81,044 ที่นั่ง และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกมากมาย เช่น หลังคาแบบถอดได้ ร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์สโมสรฟุตบอลเรอัล มาดริด

อันดับที่ 3 : สนามเวมบลีย์ (Wembley Stadium) อังกฤษ

     สนามกีฬาเวมบลีย์ (Wembley Stadium) เป็นสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในเขตเวมบลีย์พาร์ก เมืองเบรนต์ ประเทศอังกฤษ สนามแห่งนี้เป็นสนามเหย้าของทีมชาติอังกฤษ สนามกีฬาเวมบลีย์เปิดใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2550 สนามกีฬาเวมบลีย์เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรและยุโรป สนามแห่งนี้มีอัฒจันทร์ทั้งหมด 90,000 ที่นั่ง สนามกีฬาเวมบลีย์มีระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพและระบบไฟส่องสว่างที่ทันสมัย

สนามเวมบลีย์-(Wembley-Stadium)-อังกฤษ

     สนามกีฬาเวมบลีย์เป็นสนามกีฬาที่สร้างขึ้นใหม่แทนที่สนามกีฬาเวมบลีย์เดิม ซึ่งเป็นสนามกีฬาที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2466 และเคยใช้เป็นสนามแข่งขันฟุตบอลโลก 1966 และการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 1948

      สนามกีฬาเวมบลีย์ได้รับการขนานนามว่า “เวมบลีย์” (Wembley) หรือ “บ้านของฟุตบอล” (The Home of Football) สนามแห่งนี้เป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สนามแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองลอนดอนและประเทศอังกฤษ

อันดับที่ 2 :  สนามคัมป์ นู (Camp Nou) บาร์เซโลน่า

     สนามคัมป์ นู (Camp Nou) หรือชื่อทางการในปัจจุบันว่า สปอติฟาย คัมป์ นู (Spotify Camp Nou) เป็นสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในเขตซุเบียรุส เมืองบาร์เซโลนา แคว้นกาตาลุญญา ประเทศสเปน สนามแห่งนี้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา สนามกีฬาคัมป์ นูเปิดใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2500  สนามกีฬาคัมป์ นูเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยที่นั่งในสนามที่มีความจุถึง 99,354 ที่นั่ง

     สนามกีฬาคัมป์ นูได้รับการขนานนามว่า “คัมป์ นู” (Camp Nou) หรือ “สนามใหม่” (The New Stadium) สนามแห่งนี้เป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สนามแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองบาร์เซโลนาและสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา

      ในปี พ.ศ. 2566 สนามกีฬาคัมป์ นูได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยเพิ่มอัฒจันทร์ชั้นที่ห้าเพิ่มที่นั่งเป็น 105,000 ที่นั่ง และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกมากมาย เช่น หลังคาแบบถอดได้ ร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา

อันดับที่ 1 :  สนาม ปาร์กเดแพร็งส์ Parc des Princes ฝรั่งเศส

     สนาม ปาร์กเดแพร็งส์ เป็นสนามฟุตบอลตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นสนามเหย้าของสโมสรปารีส แซงต์-แชร์กแมง สนามแห่งนี้มีการออกแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามและทันสมัย โดดเด่นด้วยหลังคาทรงโค้งที่เหมือนคลื่น สนามแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1897 เดิมทีมีชื่อว่า Parc de Princes-Montrouge ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Parc des Princes ในปี ค.ศ. 1905 สนามแห่งนี้เคยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศในปี 1998 และการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบชิงชนะเลิศในปี 2016

     ในปี ค.ศ. 2013 สนามแห่งนี้ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ มีการเพิ่มหลังคาทรงโค้งที่เหมือนคลื่น ปรับปรุงระบบแสงสว่าง และเพิ่มที่นั่งใหม่ สนามแห่งนี้จึงมีความสวยงามและทันสมัยมากยิ่งขึ้น

     สนาม Parc des Princes เป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างมาก เคยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติที่สำคัญหลายครั้ง จึงเป็นสนามฟุตบอลที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของฝรั่งเศส

สนามฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ :: สนามบอลทั่วโลก

แหล่งอ้างอิง :: วิกิพีเดีย

#โอลด์แทรพฟอร์ด
#แอนด์ฟิลด์
#คัมปนูร์
#สนามฟุตบอล
#สนามบอลที่ดีที่สุดในโลก
#สนามบอลที่ใหญ่ที่สุด
#สนามบอล